กรดไหลย้อน GERD คือ ภาวะระยะยาวที่กรดจากกระเพาะอาหารย้อนขึ้นมาในหลอดอาหาร คือ กล้ามเนื้อหูรูดด้านบนของกระเพาะอาหารปิดไม่สนิท และอาจมีอาหารในกระเพาะอาหาร อาจไหลขึ้นด้านบนได้
โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารยังคงอยู่และไหลขึ้นสู่หลอดอาหารเป็นประจำ หลายคนพบกรดไหลย้อนเป็นครั้งคราว
อย่างไรก็ตามหากบุคคลใดมีอาการกรดไหลย้อนอย่างต่อเนื่องซึ่งเกิดขึ้นมากกว่าสองครั้งต่อสัปดาห์อาจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อน GERD
- กรดในกระเพาะอาหารที่ไหลเข้าไปในหลอดอาหาร อาจทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายได้
- โรคกรดไหลย้อนอาจเป็นผลมาจากการทำงานผิดปกติที่ด้านบนของกระเพาะอาหาร และด้านล่างของหลอดอาหาร
- การรักษาน้ำหนักตัวให้ไม่ให้มากเกินไป หรือไม่อ้วนนั่นเอง เลิกบุหรี่ และ พยายามลดความเครียด สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อนได้
- การรักษาโรคกรดไหลย้อนอาจเกี่ยวข้องกับการใช้สารยับยั้ง ยาลดกรดและยาอื่น ๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนมักเกิดขึ้นจากการกินมากเกิน ไปนอนราบหลังรับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารบางชนิด
อย่างไรก็ตาม กรดไหลย้อนสามารถกำเริบได้ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน มักมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ และอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมากขึ้น โดยโรคกรดไหลย้อนยังสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย และบางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดอีกด้วย
กลุ่มเสี่ยงโรคกรดไหลย้อนที่พบได้มาก
- น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน เนื่องจากความดันที่เพิ่มขึ้นในช่องท้อง
- การทานยาบางชนิดรวมถึงยารักษาโรคหอบหืด ยาแก้แพ้ ยาระงับประสาทและยาซึมเศร้า
- สูบบุหรี่และสัมผัสกับควันบุหรี่
- ไส้เลื่อนกระบังลมเป็นภาวะที่ช่องเปิดในกะบังลมทำให้ส่วนบนของกระเพาะอาหารเคลื่อนขึ้นไปที่หน้าอก

อาการต่างๆของโรคกรดไหลย้อน
การเสียดท้อง คือ ความรู้สึกไม่สบายที่หลังกระดูกหน้าอก เพราะรู้สึกแสบร้อน มีแนวโน้มที่จะแย่ลงหากบุคคลนั้นนอนลงหรือก้มตัวลงและหลังจากรับประทานอาหารด้วย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน และมีอาการอื่น ๆ ที่เป็นได้อีก เช่น
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- มีกลิ่นปาก
- ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- กลืนอาหารได้ลำบาก
ภาวะแทรกซ้อนโรคกรดไหลย้อน
- หลอดอาหารอักเสบ คือการอักเสบของหลอดอาหาร
- หลอดอาหารตีบ ในสภาพนี้หลอดอาหารจะแคบลงทำให้กลืนยาก
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เป็นไปได้ที่จะหายใจเอากรดในกระเพาะอาหารเข้าไปในปอด ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาได้หลายอย่างเ ช่น อาการคัดหน้าอก เสียงแหบ หอบหืด กล่องเสียงอักเสบ และปอดบวม
การตรวจสอบโรค
ใครก็ตามที่มีอาการกรดไหลย้อนบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งอาจส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านยาทางเดินอาหารที่เรียกว่า แพทย์ระบบทางเดินอาหารเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมจะดีที่สุด
การป้องกันที่สามารถทำได้
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรมอื่น ๆ สามารถช่วยบรรเทาโรคกรดไหลย้อน ได้แก่
- กินอาหารในปริมาณปานกลางและหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไป
- หยุดรับประทานอาหาร 2 ถึง 3 ชั่วโมงก่อนนอน
- เลิกหรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หากคนมีน้ำหนักเกิน การลดน้ำหนักสามารถช่วยป้องกันอาการได้
- อย่าสวมเสื้อผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้อง
- นอนโดยให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อย
- ลดอาหารรสเผ็ดจัด
- เลี่ยงช็อคโกแลต
- ไม่กินสะระแหน่
- ลดกาแฟ
- ลดอาหารที่มีผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ
- เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดยอาหารบางอย่างนั้นคุณสามารถที่จะปรึกษากับแพทย์ก่อนที่จะรับประทานได้ และหากคุณหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้และยังคงมีอาการเสียดท้องอยู่เป็นประจำ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์ เนื่องจากอาจมีปัญหาอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการ
คราวนี้เราคงได้รู้จักกับเจ้า กรดไหลย้อน GERD กันมากขึ้นแล้วนะครับ และสิ่งที่สำคัญก็คือเราจะต้องปฏิบัติตัวยังไงให้ห่างไกลจากโรค เพราะหลายๆคนที่เป็นโรคนี้แล้ว การที่จะรักษาให้อาการของโรคนั้นหายเป็นปกติ มีจำนวนน้อยมากที่สามารถทำได้ เพราะเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมของเราโดยตรง
ดังนั้นวิธีการป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด และสำหรับใครที่เป็นอยู่แล้ว และมองหาวิธีการรักษา สามารถจะเข้าไปศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์ Green curmin ที่รูปด้านล่างนี้ได้นะครับ ขอบคุณครับ